จริงๆ ยูกิกะว่าจะเขียนประสบการณ์นี้ หลังจากที่ยูกิไปเรียนมาคอร์สแรกเสร็จแล้ว แต่ไปๆ มาๆ ก็ไม่ได้เขียนสักที เพราะยุ่งๆ วุ่นวาย เกี่ยวกับงานอยู่ แต่แล้วก็มีโอกาสได้เขียนสักที ก่อนที่ยูกิจะลงเรียนคอร์สระยะยาว 2 เดือนนี้ ยูกิได้มีโอกาสไปดูสถาบันการสอนร้องเพลง และการแสดง มาก่อน และได้สอบถามรายละเอียดต่างๆ ซึ่งพอถามเรื่องค่าเรียน ก็รู้สึกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยูกิเอื้อมไม่ถึง... T.T มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้านะ
ประจวบเหมาะกับที่น้องสาวเพิ่งมาบอกยูกิว่า เพื่งไปเข้าอบรม workshop ของครูเงาะ ที่เปิดสถาบันสอนการแสดง ชื่อว่า The Drama Academy School สอนเกี่ยวกับเรื่องการสื่อสารการแสดงออกมา ของการประกวดแห่งหนึ่งในช่วงกลางปีที่แล้วพอดี เลยกลับมาบอกว่า อยากให้ยูกิเข้าไปลองเรียนสถาบันที่ครูคนนี้สอนอยู่ดู
ซึ่งเป็นสถาบันที่เคยสร้างนักแสดง ศิลปินมาแล้วมากมาย ตัวยูกิเองก็เคยได้ยินมาบ้างตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุ 15-16 ปี ตอนนั้นภาพยนต์เรื่อง เพื่อนสนิท กำลังดัง ที่พี่ซันนี้เป็นพระเอกและก็ได้ฟังบทสัมภาษณ์ แต่ยูกิเองก็ไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไมตอนนั้น ตอบตัวเองไม่ได้สักที จนตอนนี้น้องสาวมาบอกว่าให้ลองไปเรียนดู
แต่ก็ไม่นึกว่าสถาบันสอนการแสดงนี้ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ และก็ได้เข้าไป search หาเว็บไซต์สรุปว่ายังอยู่ จนไปหาเจอ facebook page ก็โทรไปถามเรื่องของการลงคอร์สเรียนว่าควรลงคอร์สไหน และถามถึงการแคสก่อนการเรียนด้วยเพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองควรเรียนระดับไหน
สรุปพอไปแคสกลับมา ทางพี่ประสานงานบอกกับเราว่า เราควรเรียนตั้งแต่คอร์สแรกเลย เพราะเราเหมือนกล้าๆ กลัวๆ ที่จะทำท่าทางในการแสดงออก เราก็โอเค และก็เริ่มลงทะเบียนคอร์สแรก คือ คอร์สเตรียมตัวก่อนเรียนการแสดงพื้นฐาน หรือเรียกว่า (Pre-Actor)
ซึ่งระยะเวลาการเรียน ก็ 2 เดือน 8 ครั้งครั้งละ 3 ชม. ซึ่งระยะเวลานานเหมือนกัน แต่ไหนๆ เราจะเรียนแล้ว ก็ต้องเต็มที่กลับสิ่งที่เลือกซึ่งตอนนั้นก็ยังมองไม่ออกว่าจะเอาสิ่งที่เรียนมาใช้ทำอะไร แต่ก็เรียนไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย และบวกด้วยค่าเรียนอยู่ในระดับทียูกิเอื้อมไปคว้าถึง จึงตัดสินใจเรียน
แต่ยูกิจำได้ไม่หมดนะ เอามาแชร์ในส่วนที่ยูกิเข้าเรียน อ้อลืมบอกยูกิเรียนแค่ 7 ครั้ง เพราะครั้งแรกที่เปิดสอนนั้นยูกิติดธุระ เลยทำให้ไม่ได้เรียน แต่ก็รู้สึกเหมือนได้เรียนครบ 8 ครั้งเต็มๆกับคอร์ส
ยูกิเริ่มเรียนคลาสแรก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2556 ครูคนแรกที่สอนคอร์สเตรียมก่อนเรียนการแสดงพื้นฐานยูกินั้น คือ พี่ลูกแก้ว ซึ่งพี่คนนี้เขาเป็นทั้งคนประสานงานเวลาที่ติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการสอนแต่ละคอร์สและรวมไปถึงการสอนคอร์สเตรียมก่อนการแสดงด้วย โดยในคลาสแรกจะสอนในเรื่องของการวอร์มร่างกาย ก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง การสะกดจิตตัวเอง ให้บอกข้อดีของตัวเอง การบอกเล่าเรื่องที่ตัวเองรู้สึกมีความสุข การบริหารความสุข การใช้เสียง ระดับเสียง สื่ออารมณ์ด้วยเสียง และเสียงสัมพันธ์กับร่างกาย ซึ่งในคลาสแรกนี้จะมีการทวนของเก่าก่อนด้วย เพราะยูกิไม่ได้เรียนคลาสแรกตั้งแต่เริ่มตัว มาเข้าอีกทีก็คลาสสองแล้ว ก็มีทวนให้ด้วย
คลาสสอง สอนในเรื่องการฟังเพลงแล้วสื่ออารมณ์และท่าทางตามความรู้สึก และมีกิจกรรมจินตนาการของที่นำมาวางตรงกลางวงกลม พร้อมกับทำท่าทาง ว่าสื่อถึงและสามารถเป็นอะไรได้อีก
คลาสสาม ว่าด้วเรื่องกิจกรรมเกมส์ต่อบท และท่าทาง แบ่งกลุ่มทายประโยชน์ รวมไปถึงการโชว์ความห่วย ที่เราสามารถทำอะไรก็ได้ให้มันไม่ดีในสายตาคนอื่นทำให้คนจดจำ ซึ่งยูกิมองว่าทีแรกง่ายนะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็รู้สึกว่ายากอะ เราไม่รู้จะทำอะไรให้มันไม่ดี อีกกิจกรรมคือ พรีเซนต์ขายของ โดยจับคู่กำหนดให้เรากับเพื่อนนำเสนอสิ่งของให้คนอยากซื้อให้ได้ และเรียนรู้เรื่องสัฒชาตญาณ
คลาสสี่ กิจกรรมจับไพ่เรียงลำดับความสำคัญ ซึ่งทุกคนต้องทำการจับไพ่และมีเหตุการณ์สมมติให้แสดงเป็นตัวละคร เพื่อบอกให้ได้ว่าตัวเองอยู่ระดับไหน และเรียงลำดับความสำคัญจากไพ่ที่จับได้ เป็นเกมส์ที่ทำให้ทุกคนพยายามที่จะบอกบทบาทของการแสดงมากขึ้น ทำให้ตัวเองรู้ความสำคัญของตนเอง
คลาสห้า วิธีลดความประหม่า ความตื่นเต้น ในการนำเสนองาน หรือการที่ต้องแสดง คือเมื่อเกิดความประหม่าให้ตัวเองทำการปล่อยวางด้วยตนเอง และกิจกรรมให้แนะนำเพื่อนให้เป็นที่รู้จัก คือ เราต้องถามเพื่อนที่เราจับคู่ว่า เขาชื่ออะไร เป็นใครมาจากไหน และชอบทำอะไร เพื่อให้คนอื่นๆ ได้รู้จัก สิ่งที่ได้จากกิจกรรมนี้คือการให้เราหาจุดเด่นของเพื่อน เพื่อให้ทุกคนจำได้
คลาสหก จะเป็นในเรื่องของการพูดพรีเซนต์เชิงโต้วาที โดยให้เราแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม และไปหาข้อมูลในหัวข้อที่โต้วาทีกันมา ว่าทำไมเราถึงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในหัวข้อนั้นเพื่อมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการโต้วาทีกัน และ ปิดท้ายคลาสหกด้วยการสำรวจจิตใต้สำนึก อันนี้เห็นทางพี่ลูกแก้วบอกว่าเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องมีคนควบคุม
คลาสเจ็ด ปิดคอร์ส เป็นคลาสที่เราต้องนำที่สิ่งที่เรียน สอบในหัวข้อเรื่องการพรีเซนต์ โดยให้บททางการแสดงมาว่าขายอะไร 3 เรื่องหลักๆ และให้พูดพรีเซนต์ เรื่องที่เราสนใจมากที่สุด เป็นการปิดคลาสที่สนุกมากๆ ในกรสอบตัวละครขายของนั้น จะใช้วิธีการจับสลาก โดยพี่ลูกแก้งจะบอกสิ่งที่ต้องการขายก่อนแล้วจับชื่อผู้สอบ กับตัวละครที่จะสอบ ของเราได้คาแรกเตอร์ ฮิปฮอป ขายโทรศัพท์ ขอบอกว่า เป็นเรื่องที่ยากสำหรับเราพอสมควร แต่ก็ผ่านมันไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องการสอบพรีเซนต์ในเรื่องที่เราสนใจ เราเลือก ukulele เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดที่สุด รองจากการเขียนบล็อก แต่เราพูดยาวไป เลยทำให้ดูน่าเบื่อ 555+ แต่เป็นครั้งสุดท้ายที่ดีทำให้เราใช้ในสิ่งที่เราเรียนมาได้เป็นอย่างดี
รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายตอนที่เรียนจบคลาสแล้ว... ระหว่างเรียนไม่มีรูปเลย
สิ่งที่เราได้จากการไปเรียนคอร์ส เตรียมตัวก่อนเรียนการแสดงพื้นฐาน (Pre-Actor)
สุดท้ายนี้ ขอบอกเลยว่า คอร์สเรียน Pre-Actor หรือ เตรียมก่อนการแสดงนี้ ยูกิไปเรียนเอง เสียค่าเรียนเอง ได้ประโยชน์มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมากๆ ขอบคุณพี่ลูกแก้ว พี่ๆ น้องๆ ที่เรียนคอร์สนี้ด้วยกัน บอกเลยว่า พี่ลูกแก้วเป็นคนที่สอนสนุก ไม่น่าเบื่อ ประทับใจคอร์สนี้รู้สึกทำให้อยากกลับไปเรียนการแสดงต่อ แต่คงอีกไม่นานล่ะ แต่ขอเคลียร์งานและเวลาให้ลงตัวก่อน และจะกลับไปเรียนต่อ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆ ที่ไม่มีวันลืมเลย... ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ค่ะ... ^_^
ประจวบเหมาะกับที่น้องสาวเพิ่งมาบอกยูกิว่า เพื่งไปเข้าอบรม workshop ของครูเงาะ ที่เปิดสถาบันสอนการแสดง ชื่อว่า The Drama Academy School สอนเกี่ยวกับเรื่องการสื่อสารการแสดงออกมา ของการประกวดแห่งหนึ่งในช่วงกลางปีที่แล้วพอดี เลยกลับมาบอกว่า อยากให้ยูกิเข้าไปลองเรียนสถาบันที่ครูคนนี้สอนอยู่ดู
ซึ่งเป็นสถาบันที่เคยสร้างนักแสดง ศิลปินมาแล้วมากมาย ตัวยูกิเองก็เคยได้ยินมาบ้างตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุ 15-16 ปี ตอนนั้นภาพยนต์เรื่อง เพื่อนสนิท กำลังดัง ที่พี่ซันนี้เป็นพระเอกและก็ได้ฟังบทสัมภาษณ์ แต่ยูกิเองก็ไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไมตอนนั้น ตอบตัวเองไม่ได้สักที จนตอนนี้น้องสาวมาบอกว่าให้ลองไปเรียนดู
แต่ก็ไม่นึกว่าสถาบันสอนการแสดงนี้ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ และก็ได้เข้าไป search หาเว็บไซต์สรุปว่ายังอยู่ จนไปหาเจอ facebook page ก็โทรไปถามเรื่องของการลงคอร์สเรียนว่าควรลงคอร์สไหน และถามถึงการแคสก่อนการเรียนด้วยเพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองควรเรียนระดับไหน
สรุปพอไปแคสกลับมา ทางพี่ประสานงานบอกกับเราว่า เราควรเรียนตั้งแต่คอร์สแรกเลย เพราะเราเหมือนกล้าๆ กลัวๆ ที่จะทำท่าทางในการแสดงออก เราก็โอเค และก็เริ่มลงทะเบียนคอร์สแรก คือ คอร์สเตรียมตัวก่อนเรียนการแสดงพื้นฐาน หรือเรียกว่า (Pre-Actor)
ซึ่งระยะเวลาการเรียน ก็ 2 เดือน 8 ครั้งครั้งละ 3 ชม. ซึ่งระยะเวลานานเหมือนกัน แต่ไหนๆ เราจะเรียนแล้ว ก็ต้องเต็มที่กลับสิ่งที่เลือกซึ่งตอนนั้นก็ยังมองไม่ออกว่าจะเอาสิ่งที่เรียนมาใช้ทำอะไร แต่ก็เรียนไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย และบวกด้วยค่าเรียนอยู่ในระดับทียูกิเอื้อมไปคว้าถึง จึงตัดสินใจเรียน
แต่ยูกิจำได้ไม่หมดนะ เอามาแชร์ในส่วนที่ยูกิเข้าเรียน อ้อลืมบอกยูกิเรียนแค่ 7 ครั้ง เพราะครั้งแรกที่เปิดสอนนั้นยูกิติดธุระ เลยทำให้ไม่ได้เรียน แต่ก็รู้สึกเหมือนได้เรียนครบ 8 ครั้งเต็มๆกับคอร์ส
ยูกิเริ่มเรียนคลาสแรก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2556 ครูคนแรกที่สอนคอร์สเตรียมก่อนเรียนการแสดงพื้นฐานยูกินั้น คือ พี่ลูกแก้ว ซึ่งพี่คนนี้เขาเป็นทั้งคนประสานงานเวลาที่ติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการสอนแต่ละคอร์สและรวมไปถึงการสอนคอร์สเตรียมก่อนการแสดงด้วย โดยในคลาสแรกจะสอนในเรื่องของการวอร์มร่างกาย ก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง การสะกดจิตตัวเอง ให้บอกข้อดีของตัวเอง การบอกเล่าเรื่องที่ตัวเองรู้สึกมีความสุข การบริหารความสุข การใช้เสียง ระดับเสียง สื่ออารมณ์ด้วยเสียง และเสียงสัมพันธ์กับร่างกาย ซึ่งในคลาสแรกนี้จะมีการทวนของเก่าก่อนด้วย เพราะยูกิไม่ได้เรียนคลาสแรกตั้งแต่เริ่มตัว มาเข้าอีกทีก็คลาสสองแล้ว ก็มีทวนให้ด้วย
คลาสสอง สอนในเรื่องการฟังเพลงแล้วสื่ออารมณ์และท่าทางตามความรู้สึก และมีกิจกรรมจินตนาการของที่นำมาวางตรงกลางวงกลม พร้อมกับทำท่าทาง ว่าสื่อถึงและสามารถเป็นอะไรได้อีก
คลาสสาม ว่าด้วเรื่องกิจกรรมเกมส์ต่อบท และท่าทาง แบ่งกลุ่มทายประโยชน์ รวมไปถึงการโชว์ความห่วย ที่เราสามารถทำอะไรก็ได้ให้มันไม่ดีในสายตาคนอื่นทำให้คนจดจำ ซึ่งยูกิมองว่าทีแรกง่ายนะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็รู้สึกว่ายากอะ เราไม่รู้จะทำอะไรให้มันไม่ดี อีกกิจกรรมคือ พรีเซนต์ขายของ โดยจับคู่กำหนดให้เรากับเพื่อนนำเสนอสิ่งของให้คนอยากซื้อให้ได้ และเรียนรู้เรื่องสัฒชาตญาณ
คลาสสี่ กิจกรรมจับไพ่เรียงลำดับความสำคัญ ซึ่งทุกคนต้องทำการจับไพ่และมีเหตุการณ์สมมติให้แสดงเป็นตัวละคร เพื่อบอกให้ได้ว่าตัวเองอยู่ระดับไหน และเรียงลำดับความสำคัญจากไพ่ที่จับได้ เป็นเกมส์ที่ทำให้ทุกคนพยายามที่จะบอกบทบาทของการแสดงมากขึ้น ทำให้ตัวเองรู้ความสำคัญของตนเอง
คลาสห้า วิธีลดความประหม่า ความตื่นเต้น ในการนำเสนองาน หรือการที่ต้องแสดง คือเมื่อเกิดความประหม่าให้ตัวเองทำการปล่อยวางด้วยตนเอง และกิจกรรมให้แนะนำเพื่อนให้เป็นที่รู้จัก คือ เราต้องถามเพื่อนที่เราจับคู่ว่า เขาชื่ออะไร เป็นใครมาจากไหน และชอบทำอะไร เพื่อให้คนอื่นๆ ได้รู้จัก สิ่งที่ได้จากกิจกรรมนี้คือการให้เราหาจุดเด่นของเพื่อน เพื่อให้ทุกคนจำได้
คลาสหก จะเป็นในเรื่องของการพูดพรีเซนต์เชิงโต้วาที โดยให้เราแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม และไปหาข้อมูลในหัวข้อที่โต้วาทีกันมา ว่าทำไมเราถึงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในหัวข้อนั้นเพื่อมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการโต้วาทีกัน และ ปิดท้ายคลาสหกด้วยการสำรวจจิตใต้สำนึก อันนี้เห็นทางพี่ลูกแก้วบอกว่าเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องมีคนควบคุม
คลาสเจ็ด ปิดคอร์ส เป็นคลาสที่เราต้องนำที่สิ่งที่เรียน สอบในหัวข้อเรื่องการพรีเซนต์ โดยให้บททางการแสดงมาว่าขายอะไร 3 เรื่องหลักๆ และให้พูดพรีเซนต์ เรื่องที่เราสนใจมากที่สุด เป็นการปิดคลาสที่สนุกมากๆ ในกรสอบตัวละครขายของนั้น จะใช้วิธีการจับสลาก โดยพี่ลูกแก้งจะบอกสิ่งที่ต้องการขายก่อนแล้วจับชื่อผู้สอบ กับตัวละครที่จะสอบ ของเราได้คาแรกเตอร์ ฮิปฮอป ขายโทรศัพท์ ขอบอกว่า เป็นเรื่องที่ยากสำหรับเราพอสมควร แต่ก็ผ่านมันไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องการสอบพรีเซนต์ในเรื่องที่เราสนใจ เราเลือก ukulele เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดที่สุด รองจากการเขียนบล็อก แต่เราพูดยาวไป เลยทำให้ดูน่าเบื่อ 555+ แต่เป็นครั้งสุดท้ายที่ดีทำให้เราใช้ในสิ่งที่เราเรียนมาได้เป็นอย่างดี
รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายตอนที่เรียนจบคลาสแล้ว... ระหว่างเรียนไม่มีรูปเลย
สิ่งที่เราได้จากการไปเรียนคอร์ส เตรียมตัวก่อนเรียนการแสดงพื้นฐาน (Pre-Actor)
- ทำให้เรามีความมั่นใจ ความกล้าในการแสดงออกมาขึ้น
- ทำให้เรารู้จักระดับการใช้เสียง เสียงบ่งบอกในการสื่ออารมณ์
- ทำให้เรารู้ถึงความสำคัญในการลำดับหน้าที่ผ่านไพ่บอกลำดับ
- ทำให้เรารู้จักข้อดี รวมถึง การทำให้ตัวเองมีความสุขด้วย
- ทำให้เราได้เพื่อนใหม่ ในคลาสที่ยูกิเรียนนั้น มีตั้งแต่น้องที่เด็กสุดอายุ 13 ไปจนถึงอายุ 30 โดยประมาณ ซึ่งเป็นคลาสที่คละกัน เห็นพี่ผู้สอนยูกิบอกว่าดีนะ ทำให้เห็นหลายๆ ความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ด้วย
สุดท้ายนี้ ขอบอกเลยว่า คอร์สเรียน Pre-Actor หรือ เตรียมก่อนการแสดงนี้ ยูกิไปเรียนเอง เสียค่าเรียนเอง ได้ประโยชน์มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมากๆ ขอบคุณพี่ลูกแก้ว พี่ๆ น้องๆ ที่เรียนคอร์สนี้ด้วยกัน บอกเลยว่า พี่ลูกแก้วเป็นคนที่สอนสนุก ไม่น่าเบื่อ ประทับใจคอร์สนี้รู้สึกทำให้อยากกลับไปเรียนการแสดงต่อ แต่คงอีกไม่นานล่ะ แต่ขอเคลียร์งานและเวลาให้ลงตัวก่อน และจะกลับไปเรียนต่อ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆ ที่ไม่มีวันลืมเลย... ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ค่ะ... ^_^
Comments
Post a Comment